วันอังคารที่ 1 พฤศจิกายน พ.ศ. 2559

พระราชกรณียกิจของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่9



โครงการแก้มลิง

     ความเป็นมาของโครงการแก้มลิง
โครงการแก้มลิง เป็นแนวคิดในพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เพื่อแก้ปัญหาอุทกภัย โดยพระองค์ทรงตระหนักถึงความรุนแรงของอุทกภัยที่เกิดขึ้นในกรุงเทพมหานคร เมื่อปี พ.ศ.2538 จึงมีพระราชดำริ โครงการแก้มลิง ขึ้น เมื่อวันที่ ๑๔ พฤศจิกายน พ.ศ.๒๕๓๘
โดยให้จัดหาสถานที่เก็บกักน้ำตามจุดต่างๆ ในกรุงเทพมหานคร เพื่อรองรับน้ำฝนไว้ชั่วคราว เมื่อถึงเวลาที่คลองพอจะระบายน้ำได้จึงค่อยระบายน้ำจากส่วนที่กักเก็บไว้ออกไป จึงสามารถลดปัญหาน้ำท่วมได้

                                                          แนวคิดของโครงการแก้มลิง
แนวคิดของโครงการแก้มลิง เกิดจากการที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มีพระราชดำริถึงลิงที่อมกล้วยไว้ในกระพุ้งแก้มได้คราวละมากๆ จึงมีพระราชกระแสอธิบายว่า ลิงโดยทั่วไปถ้าเราส่งกล้วยให้ ลิงจะรีบปอกเปลือก เอาเข้าปากเคี้ยว แล้วนำไปเก็บไว้ที่แก้มก่อน ลิงจะทำอย่างนี้จนกล้วยหมดหวีหรือเต็มกระพุ้งแก้ม จากนั้นจะค่อยๆ นำออกมาเคี้ยวและกลืนกินภายหลังแนวพระราชดำรินี้ จึงเกิดเป็น โครงการแก้มลิง ขึ้น เพื่อสร้างพื้นที่กักเก็บน้ำ ไว้รอการระบายเพื่อใช้ประโยชน์ในภายหลัง


                                                ลักษณะและวิธีการของโครงการแก้มลิง
ลักษณะของโครงการแก้มลิงจะดำเนินการระบายน้ำออกจากพื้นที่ตอนบน เพื่อให้น้ำไหลลงคลองพักน้ำที่ชายทะเล จากนั้นเมื่อระดับน้ำทะเลลดลงจนต่ำกว่าน้ำในคลอง น้ำในคลองจะไหลลงสู่ทะเลตามธรรมชาติ ต่อจากนั้นจะเริ่มสูบน้ำออกจากคลองที่ทำหน้าที่แก้มลิง   เพื่อทำให้น้ำตอนบนค่อยๆ ไหลมาเอง จึงทำให้เกิดน้ำท่วมพื้นที่ลดน้อยลง จนในที่สุดเมื่อระดับน้ำทะเลสูงกว่าระดับในคลอง จึงปิดประตูระบายน้ำ โดยให้น้ำไหลลงทางเดียว (One Way Flow) 


อ่านต่อ..
                                                      โครงการแก้มลิงมี ๓ ขนาด คือ
๑. แก้มลิงขนาดใหญ่ ( Retarding Basin) คือ สระน้ำหรือบึงขนาดใหญ่ ที่รวบรวมน้ำฝนจากพื้นที่บริเวณนั้นๆ โดยจะกักเก็บไว้เป็นระยะเวลาหนึ่งก่อนที่จะระบายลงสู่ลำน้ำ พื้นที่เก็บกักน้ำเหล่านี้ได้แก่ เขื่อน อ่างเก็บน้ำ ฝาย ทุ่งเกษตรกรรม เป็นต้น ลักษณะสิ่งก่อสร้างเหล่านี้จะมีวัตถุประสงค์อื่นประกอบด้วย เช่น เพื่อการชลประทาน เพื่อการประมง เป็นต้น
๒. แก้มลิงขนาดกลาง เป็นพื้นที่ชะลอน้ำที่มีขนาดเล็กกว่า ก่อสร้างในระดับลุ่มน้ำ มักเป็นพื้นที่ธรรมชาติ เช่น หนอง บึง คลอง เป็นต้น
๓. แก้มลิงขนาดเล็ก (Regulating Reservoir) คือแก้มลิงที่มีขนาดเล็กกว่า อาจเป็นพื้นที่สาธารณะ สนามเด็กเล่น ลานจอดรถ หรือสนามในบ้าน ซึ่งต่อเข้ากับระบบระบายน้ำหรือคลอง

ทั้งนี้แก้มลิงที่อยู่ในพื้นที่เอกชน เรียกว่า แก้มลิงเอกชน ส่วนที่อยู่ในพื้นที่ของราชการและรัฐวิสาหกิจจะเรียกว่า แก้มลิงสาธารณะ
การจัดหาและออกแบบโครงการแก้มลิง
การพิจารณาจัดหาพื้นที่กักเก็บน้ำนั้น ต้องทราบปริมาตรน้ำผิวดินและอัตราการไหลผิวดินที่มากที่สุดที่จะยอมปล่อยให้ออกได้ในช่วงเวลาฝนตก โดยสิ่งสำคัญคือต้องจัดหาพื้นที่กักเก็บให้พอเพียง เพื่อจะได้ไม่เป็นปัญหาในการระบายน้ำ ปัจจุบันมีแก้มลิงทั้งขนาดเล็ก และขนาดใหญ่กระจายอยู่ทั่วกรุงเทพมหานคร กว่า 20 จุด ซึ่งส่วนใหญ่เป็นพื้นที่ทางฝั่งธนบุรี เนื่องจากมีคลองจำนวนมาก และระบายน้ำออกทางแม่น้ำเจ้าพระยา


โครงการแก้มลิง เป็นการบริหารจัดการน้ำตามแนวพระราชดำริของ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช เกี่ยวกับ พื้นที่หน่วงน้ำ (detention basin) เพื่อแก้ปัญหาน้ำท่วม ปัจจุบันมีพื้นที่แก้มลิงขนาดใหญ่อยู่ทางฝั่งตะวันออกของกรุงเทพ เหนือ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ โดยกำหนดในผังการใช้ที่ดินเป็นพื้นที่เขียวลาย ไม่เหมาะกับการพัฒนา นอกจากนี้ยังมีแก้มลิงเล็กใหญ่กระจายอยู่ทั่ว กรุงเทพ กว่า 20 จุด

โครงการแก้มลิง มีแนวคิดจากการที่ลิงอมกล้วยไว้ในกระพุ้งแก้มไว้ได้คราวละมากๆ พระบาทสมเด็จพระจ้าอยู่หัว ได้มีพระราชกระแสอธิบายว่า "ลิงโดยทั่วไปถ้าเราส่งกล้วยให้ ลิงจะรีบปอกเปลือก เอาเข้าปากเคี้ยว แล้วนำไปเก็บไว้ที่แก้มก่อนลิงจะทำอย่างนี้จนกล้วยหมดหวีหรือ เต็มกระพุ้งแก้ม จากนั้นจะค่อยๆ นำออกมาเคี้ยวและกลืนกินภายหลัง"




                                                  


เเหล่งอ้างอิง..







วันพฤหัสบดีที่ 25 สิงหาคม พ.ศ. 2559

เพลงนาฏศิลป์



เนื้อเพลง นาฏศิลป์ดนตรี



เพลง งามแสงเดือน

งามแสงเดือนมาเยือนส่องหล้า งามใบหน้าเมื่ออยู่วงรำ (ซ้ำ)
เราเล่นเพื่อสนุก เปลื้องทุกข์วายระกำ
ขอให้เล่นฟ้อนรำ เพื่อสามัคคีเอย



เพลง ชาวไทย

                   ชาวไทยเจ้าเอ๋ย             ขออย่าละเลยในการทำหน้าที่ 
        การที่เราได้เล่นสนุก         เปลื้องทุกข์สบายอย่างนี้ 
   เพราะชาติเราได้เสรี         มีเอกราชสมบูรณ์ 
    เราจึงควรช่วยชูชาติ        ให้เก่งกาจเจิดจำรูญ 
     เพื่อความสุขเพิ่มพูน         ของชาวไทยเรา เอย



เพลง รำมาซิมารำ

รำซิมารำ     เริงระบำกันให้สนุก
   ยามงานเราทำงานจริงจริง    ไม่ละไม่ทิ้งจะเกิดเข็ญทุกข์
   ถึงยามว่างเราจึงรำเล่น   ตามเชิงเช่นเพื่อให้สร่างทุกข์
   ตามเยี่ยงอย่างตามยุค   เล่นสนุกอย่างวัฒนธรรม
   เล่นอะไรให้มีระเบียบ    ให้งามให้เรียบจึงจะคมขำ
   มาซิมาเจ้าเอ๋ยมาฟ้อนรำ   มาเล่นระบำของไทยเราเอย.


เพลง ดวงจันทร์ขวัญฟ้า

ดวงจันทร์ขวัญฟ้า     ชื่นชีวาขวัญพี่
   จันทร์ประจำราตรี     แต่ขวัญพี่ประจำใจ
   ที่เทิดทูนคือชาติ    เอกราชอธิปไตย
   ถนอมแนบสนิทใน     คือขวัญใจพี่เอย.

เพลง คืนเดือนหงาย

ยามกลางเดือนหงาย     เย็นพระพายโบกพริ้วปลิวมา
    เย็นอะไรก็ไม่เย็นจิต    เท่าเย็นผูกมิตรไม่เบื่อระอา
    เย็นร่มธงไทยโบกไปทั่วหล้า     เย็นยิ่งน้ำฟ้ามาประพรมเอย

เพลง ดวงจันทร์วันเพ็ญ

 ดวงจันทร์วันเพ็ญ      ลอยเด่นอยู่ในนภา
   ทรงกลดสดสี     รัศมีทอแสงงามตา
   แสงจันทร์อร่าม    ฉายงามส่องฟ้า
   ไม่งามเท่าหน้า    นวลน้องยองใย
   งามเอยแสนงาม    งามจริงยอดหญิงชาติไทย
   งามวงพักตร์ยิ่งดวงจันทรา    จริตกิริยานิ่มนวลละไม
   วาจากังวาน    อ่อนหวานจับใจ
   รูปทรงสมส่วน    ยั่วยวนหทัย
   สมเป็นดอกไม้    ขวัญใจชาติเอย.

เพลง ดอกไม้ของชาติ

(สร้อย) ขวัญใจดอกไม้ของชาติ      งามวิลาศนวยนาดร่ายรำ(ซ้ำ)
  เอวองค์อ่อนงาม      ตามแบบนาฎศิลป์
  ชี้ชาติไทยเนาว์ถิ่น      เจริญวัฒนธรรม
  (สร้อย)
  งามทุกสิ่งสามารถ    สร้างชาติช่วยชาย
  ดำเนินตามนโยบาย     สู้ทนเหนื่อยยากตรากตรำ
 (สร้อย)

เพลง บูชานักรบ

  น้องรักรักบูชาพี่    ที่มั่นคงที่มั่นคงกล้าหาญ
   เป็นนักสู้เชี่ยวชาญ     สมศักดิ์ชาตินักรบ
   น้องรักรักบูชาพี่    ที่มานะที่มานะอดทน
   หนักแสนหนักพี่ผจญ    เกียรติพี่ขจรจบ
   น้องรักรักบูชาพี่    ที่ขยันที่ขยันกิจการ
   บากบั่นสร้างหลักฐาน    ทำทุกด้านทำทุกด้านครันครบ
   น้องรักบูชาพี่    ที่รักชาติที่รักชาติยิ่งชีวิต
   เลือดเนื้อที่พลีอุทิศ    ชาติคงอยู่คงอยู่คู่พิภพ

เพลง ยอดชายใจหาญ

โอ้ยอดชายใจหาญ       ขอสมานไมตรี
   น้องมาร่วมชีวี            กอบกรณีกิจชาติ
   แม้สุดยากลำเค็ญ        ไม่ขอเว้นเดินตาม
   น้องจักสู้พยายาม        ทำเต็มความสามารถ.

เพลง หญิงไทยใจงาม

เดือนพราว     ดาวแวววาวระยับ
    แสงดาวประดับ    ส่องให้เดือนงามเด่น
    ดวงหน้า     โสภาเพียงเดือนเพ็ญ
    คุณความดีที่เห็น    เสริมให้เด่นเลิศงาม
    ขวัญใจ    หญิงไทยส่องศรีชาติ
    รูปงามพิลาศ   ใจกล้ากาจเรืองนาม
    เกียรติยศ    ก้องปรากฎทั่วคาม
    หญิงไทยใจงาม   ยิ่งเดือนดาวพราวแพรว

รำวงเพลงมาตรา 10 เพลง 

แหล่งอ้างอิงดีๆ

















วันพฤหัสบดีที่ 21 กรกฎาคม พ.ศ. 2559

การออกแบบสร้างสรรค์งานทัศนศิลป์ !!!



การออกแบบสร้างสรรค์งาน 



  การออกแบบ หมายถึง การรู้จักการวางแผนจัดตั้งขั้นตอนและรู้จักเลือกใช้วัสดุวิธีการเพื่อทต้องการนั้น โดยให้สอดคล้องกับลักษณะ รูปแบบและคุณสมบัติของวัตถุ

การออกแบบจำแนกได้ 2 ประเภท คือ การออกแบบโครงสร้าง และการออกแบบตกแต่ง
1.การออกแบบโครงสร้าง คือ การออกแบบรูปร่างและรูปทรงของวัตถุ เพื่อให้ได้สัดส่วนพอเหมาะ
2.การออกแบบตกแต่ง คือ การใช้ลวดลายตกแต่งให้กับโครงสร้างหลักเพื่อความสวยงาม

องค์ประกอบของการออกแบบ
ผลงานออกแบบส่วนมากจะมีการผสมผสานองค์ประกอบอย่างกลมกลืน ตรงตามความมุ่งหมายที่ออกแบบไว้ โดยการออกแบบนั้นจะต้องคำนึงถึงหลักการ เพื่อให้ได้ผลงานที่มีคุณภาพ โดยอาศัยองค์ประกอบต่อไปนี้
1.เส้น (Line) จะต้องมีความเข้าใจเกี่ยวกับลักษณะของเส้น
2.ทิศทาง (Direction)
3.รูปร่างและรูปทรง (Form and Shape) รูปร่างจะมีลักษณะกว้างและยาว รูปทรงมีลักษณะกว้าง ยาว หนา
4.ขนาดและสัดส่วน (Size and proportion)
5.ลักษณะพื้นผิว (Textury) คือสื่งที่เห็นหรือสัมผัสได้

วันอังคารที่ 5 กรกฎาคม พ.ศ. 2559

มาลองทำกันเถอะ ขนมครกม้วน!


ขนมครกม้วน
                                                         


ขนมครกม้วน
แต่เดิมเราเคยเห็นขนมครกที่ทำอยู่ในกระทะเหล็กที่มีหลุมเล็กๆ ไว้สำหรับเทหรือหยอดลงในเบ้าขนมครก ใช้ความร้อนจากเตาถ่านหรือเตาแก๊สเพื่อให้ขนมครกนั้นสุก แต่ในวันนี้ใหม่ขอนำเสนอขนมครกสไตล์ใหม่ คือการนำเนื้อแป้งขนมครก ตักหยอดลงบนกระทะแทนแล้วก็ม้วนให้มีลักษณะคล้ายขนมโตเกียวนั้นเอง 







ขนมไทย ครกม้วน!!



ขนมครก เป็นขนมไทยอีกชนิดที่มีมาตั้งแต่โบราณ และจนกระทั่งปัจจุบัน ทั้งวิธีการทำและสูตร มีการพัฒนา มีหลายใส้ หลาายหน้า หลายรสชาด แบบกรอบ นิ่ม มีแฟรนชาย ทำขายเอง ทำทานเอง แต่ขนมครกเสน่ห์ก็อยู่ที่เตาทำขนมครก ต้องเป็นเบ้า แต่ เบ้าขนมครก ใช่ว่าทุกบ้านจะมีติดไว้เป็นของสามัญทั่วไป ดังนั้น ขนมครกจึงมีการดัดแปลงให้ทำได้โดยไม่ต้องอาศัยเบ้า แต่ใช้กะทะทำแทน จึงเป็นที่มาของ ขนมครกม้วน


ส่วนผสม

แป้งข้าวจ้าว1.5 ถ้วย
ข้าวสวยบด3-4 ชต
หัวกะทิสด300 กรัม
น้ำตาลทรายขาว (เพิ่ม-ลด ตามความชอบหวาน)0.5 ถ้วย
เกลือป่น0.5 ชช
ใบเตย หั่น ตำ คั้นเอาแต่น้ำ4-5 ใบ
 ต้นหอมซอย งาขาวคั่ว(เอาไว้โรยหน้า)


วิธีทำ

           ผสมวัตถุดิบเข้าด้วยกัน ยกเว้นใบต้นหอม แล้วคนให้น้ำตาลละลาย+
           กะทะเทฟล่อนตั้งไฟอ่อน น้ำมันทาพอเปียก+
          ตักแป้ง 2-3 ชต. ตามสไตร์ โรยหน้าด้วยต้นหอม หรือ งาขาว
          สุกแล้ว ม้วนตามชอบ+
         ปล. สูตรเดิมใส่มะพร้าวขูดด้วย ผมไม่มีเลยไม่ได้ใส่ และผมเพิ่มโรยหน้าด้วยกะทิปรุงเค็ม-หวาน นิดหน่อย



 https://cookpad.com/th/recipes